Generative AI การสร้างโฆษณาเป็นร้อยแบบต่อวันจากเครื่องมืออย่าง Gemini, DALL-E, หรือ AdCreative.ai กลายเป็นเรื่องง่าย แต่ปริมาณที่ท่วมท้นนี้กลับสร้างปัญหาใหม่ให้กับนักการตลาด เราจะแยก ‘ชิ้นงานที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง’ ออกจาก ‘ชิ้นงานที่แค่เข้าตา Algorithm’ ได้อย่างไร?
การพึ่งพาตัวชี้วัดประสิทธิภาพแบบพื้นฐาน CTR, Conversion Rate เพียงอย่างเดียวอาจทำให้เราพลาดชิ้นงานที่มีศักยภาพในการสร้าง Brand Equity ในระยะยาวได้ การเลือกชิ้นงานโฆษณาที่ชนะจึงต้องเป็นการผสานกันระหว่าง ความเร็วของ AI และ วิจารณญาณของมนุษย์
จุดอ่อนของ Algorithm ในการตัดสินใจเชิงสร้างสรรค์
AI เก่งกาจในการทำนายผลลัพธ์จากข้อมูลในอดีต แต่มีจุดบอดที่สำคัญเมื่อต้องประเมินงานสร้างสรรค์
- ขาดความเข้าใจบริบททางวัฒนธรรมและอารมณ์ AI ไม่สามารถเข้าใจอารมณ์ขันที่ละเอียดอ่อน, การเสียดสี, หรือความแตกต่างทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งได้ ชิ้นงานที่สร้างความรู้สึกร่วม กับผู้ชมอย่างแท้จริงจึงมักต้องอาศัยการกรองจากมนุษย์
- เสี่ยงต่อ Local Maxima Algorithm มักจะเลือก Creative ที่เคยทำได้ดีที่สุดในอดีตซึ่งเป็นการป้องกันตัวเองจากความเสี่ยง แต่ไม่ส่งเสริม ความแปลกใหม่ หรือ นวัตกรรมที่อาจนำมาซึ่งผลตอบแทนที่สูงกว่าในระยะยาว
- ความยุ่งยากทางจริยธรรม AI อาจสร้างโฆษณาที่ละเมิดจริยธรรม หรือใช้ภาพที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งหากไม่มีการกำกับดูแลจากมนุษย์
3 เสาหลักของการคัดเลือก Creative ที่ชนะ
นักการตลาดต้องสวมบทบาทเป็นบรรณาธิการและผู้ดูแลศิลปะ เพื่อให้แน่ใจว่างานที่เลือกจะตอบโจทย์เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของแบรนด์
เสาหลักที่ 1 Brand Suitability และ Purpose
- คำถามชิ้นงานนี้สอดคล้องกับ Brand Purpose และค่านิยมหลักหรือไม่?
- การกระทำ ก่อนปล่อย Creative ใดๆ ต้องประเมินด้วยสายตาว่าโฆษณานั้นๆ รู้สึกเหมือนเป็นแบรนด์ของเราหรือไม่ บางครั้งโฆษณาที่ AI ทำนายว่า CTR จะสูง อาจเป็นเพราะใช้เทคนิคที่ฉาบฉวย หรือดูไม่เป็นมืออาชีพ การเลือก Creative ที่ทำคะแนนได้สูงใน Brand Lift แม้ CTR จะต่ำกว่าเล็กน้อย อาจเป็นประโยชน์ในระยะยาว
เสาหลักที่ 2 Memory และ Emotion
- คำถาม โฆษณานี้สร้างความรู้สึกอะไร และน่าจดจำหรือไม่?
- การกระทำ ใช้การทดสอบเชิงคุณภาพเช่น การทำ Survey ง่ายๆ เพื่อวัดผู้บริโภคจำแบรนด์ได้หรือไม่หลังจากดูโฆษณา และ โฆษณาทำให้พวกเขารู้สึกตลก, ตื่นเต้น, หรือได้รับแรงบันดาลใจ?
เสาหลักที่ 3 Originality และ Novelty
- คำถาม โฆษณานี้มีความแปลกใหม่เพียงพอที่จะ “ทำลายรูปแบบ” หรือไม่?
- การกระทำ จงเผื่อ Budget 5% – 10% สำหรับการทดสอบ Creative ที่บ้าบิ่นที่สุด หรือ Creative ที่ AI อาจจะจัดให้อยู่ในกลุ่ม “เสี่ยง” การทดลองที่เน้น Novelty นี้คือความหวังเดียวในการค้นพบ Ad Concept ที่สร้างผลลัพธ์แบบ Viral ซึ่ง AI ไม่กล้าแนะนำตั้งแต่แรก
ผสานมนุษย์และ AI เข้าด้วยกัน
การทำงานกับ AI คือการเปลี่ยนบทบาทของ Creative Team ให้กลายเป็นผู้ที่เน้นการสร้าง กลยุทธ์ระดับสูง
- ใช้ AI สร้าง Generate มอบหมายให้ AI รับผิดชอบงาน Production และ Testing ในปริมาณมาก
- ใช้มนุษย์กำกับ Curate ทีมงานมนุษย์ประเมิน Creative ที่ AI สร้างจากมุมมองของ Brand และ Culture
- ใช้ Algorithm วัดผล Validate ใช้ Algorithm ตรวจสอบประสิทธิภาพเชิงตัวเลขจริงในการรันระยะสั้น เพื่อยืนยันว่า Creative ที่ดีทางกลยุทธ์นั้นสามารถสร้างผลลัพธ์ได้จริง
การลงทุนใน วิจารณญาณของมนุษย์ ที่ถูกเสริมด้วยความเร็วของ AI จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างโฆษณาที่ทั้งมีประสิทธิภาพและมีความหมายอย่างแท้จริง

